อธิบาย BMR และ TDEE แบบเข้าใจง่าย

BMR ย่อมาจาก Basal Metabolic Rate หมายถึง อัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการเพื่อรักษาการดำรงชีวิตพื้นฐาน โดย BMR จะแสดงถึงปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการเผาผลาญเพื่อรักษาการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง และระดับกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน โดยปริมาณ BMR จะมีค่าต่ำกว่า TDEE (Total Daily Energy Expenditure) ซึ่งหมายถึง พลังงานรวมทั้งหมดที่ร่างกายใช้ในการทำงานแต่ละวัน รวมถึงการเผาผลาญพลังงานจากกิจกรรมที่ต่างกันอย่างเช่นการเดิน การวิ่ง การออกกำลังกาย และการทำงานต่าง ๆ

สำหรับ TDEE นั้นสามารถคำนวณได้จากการนำ BMR มาคูณกับค่าพลังงานที่ใช้ในกิจกรรม (activity factor) ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ

  • Sedentary (กิจกรรมน้อยหรือไม่ออกกำลังกาย) = 1.2
  • Lightly active (ออกกำลังกายเล็กน้อยต่อสัปดาห์) = 1.375
  • Moderately active (ออกกำลังกาย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์) = 1.55
  • Very active (ออกกำลังกายหรือทำงานที่ต้องใช้พลังงานมาก) = 1.725
  • Extremely active (ออกกำลังกายหนักหรือทำงานที่ต้องใช้พลังงานมากมาย) = 1

ในการคำนวณ TDEE จะต้องใช้ BMR ที่คูณกับ activity factor แต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น หากคำนวณ TDEE ของผู้หญิงอายุ 30 ปี ส่วนสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม และมีระดับกิจกรรมที่ Moderately active (1.55) จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

BMR = (10 x 60) + (6.25 x 165) – (5 x 30) + 5 = 1302.5 TDEE = BMR x activity factor = 1302.5 x 1.55 = 2019.38

ดังนั้น TDEE ของผู้หญิงดังกล่าวคือ 2019.38 แคลอรี่ต่อวัน ซึ่งหมายความว่าเพื่อรักษาน้ำหนักปัจจุบันของเธอ ต้องรับประทานอาหารโดยเฉลี่ยในปริมาณนี้ต่อวัน แต่หากต้องการลดหรือเพิ่มน้ำหนัก จะต้องปรับเปลี่ยนปริมาณอาหารหรือระดับกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเธอ

คำนวณ BMR และ TDEE ของคุณได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ

Basal Metabolic Rate (BMR)