คำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก บางคนมองกว่าการคาร์ดิโอแบบช้า ๆ อย่างการเดินชัน ๆ ความเร็วสม่ำเสมอ ช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้ดีที่สุด บางคนบอกว่าการทำ HIIT ช่วยกระตุ้นการเบิร์นแคลอรี่ได้ดีกว่าแบบแรก สำหรับบทความนี้ผมจะไม่ฟันธงหรือเจาะจงว่าอันไหนได้ผลดีกว่ากันนะครับ แต่จะมาให้อธิบายที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปตัดสินใจกันได้เอง โดยผมจะมุ่งไปที่การทำคาร์ดิโอ 2 รูปแบบ คือ Low & High intensity ครับ มาทำความเข้าใจกันเลยครับ
สำหรับการคาร์ดิโอแบบ Low Intensity นั้น เป็นการคาร์ดิโอแบบช้า ๆ เช่น การเดินช้า ๆ การปั่นจักรยานช้า ๆ ซึ่งจะค่อย ๆ เผาผลาญแคลอรี่ออกไป ข้อดี คือ ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุจากการทำคาร์ดิโอได้ดีกว่า รักษามวลกล้ามเนื้อได้ดีกว่า สำหรับข้อเสีย อาจจะต้องใช้เวลานานในการทำคาร์ดิโอรูปแบบนี้ บางคนอาจรู้สึกเบื่อได้ เพราะใช้เวลานานเกินไป สำหรับการฝึกแบบ Low เราสามารถทำได้ทุกวันหลังเวท
ส่วนการทำคาร์ดิโอแบบ HIIT นั้น เป็นการทำคาร์ดิโอแบบเร็วและต่อเนื่อง เช่น การเต้น T25 หรือการฝึกท่าบอดี้เวท 3-4 ท่าต่อเนื่องกัน โดยมีช่วงพักเพียง 10 วินาทีเท่านั้น การทำ HIIT นี้จะทำต่อเนื่อง 4-5 รอบโดยประมาณ ซึ่งมีข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ไม่น่าเบื่อ ผู้ฝึกได้เพลิดเพลินกับการทำ HIIT เพราะมีความหลากหลายของท่าในการฝึก กระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี ในการฝึกแบบ HIIT นี้ ผู้ฝึกจะมีความตื่นตัว และแอคทีฟมากกว่าแบบแรกพอสมควร ส่วนข้อเสีย คือ การทำ HIIT อาจทำร้ายกล้ามเนื้อซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ๆ สำหรับร่างกายเรา อาจเปิดอุบัติเหตุได้ง่ายหากผู้ฝึกยังไม่มีความชำนาญในการฝึก สำหรับการฝึกแบบ HIIT แนะนำให้ฝึกสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนั้น สำหรับผมแล้ว หากต้องการจะลดน้ำหนัก หรือต้องการเรียกความฟิตแอนด์เฟิร์มแล้วละก็ การออกกำลังกายแบบควบคู่กัน ทั้งแบบ Low และแบบ HIIT เป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
อ่านบทความนี้แล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะเข้าในการทำคาร์ดิโอที่ชัดเจน และเลือกปฏิบัติได้ถูกต้อง และเหมาะสมนะครับ
